วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ลองนึกภาพฉากนี้ดู

ลองนึกภาพฉากนี้ดู

กลุ่มนักเรียนชั้นประถมตอนปลายกลุ่มหนึ่งกำลังเรียนเกี่ยวกับเทพนิยายและนิทานพื้นบ้าน พวกเขารวมตัวกันเพื่อที่จะอ่านเรื่องที่ดัดแปลงมาจากนิทานเก่าๆ เรื่อง “หม้อวิเศษ เด้งดึ๋งได้” เด็กๆ ฝึกซ้อมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ และตอนนี้ก็พร้อมที่จะอ่านให้กับเพื่อนๆ ที่เหลือในชั้นเรียนฟังแล้ว
บ้างก็นั่ง บ้างก็ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน โดยทั้งหมดหันหน้ามาทางผู้ชม ผู้บรรยายยืนอยู่หลังที่วางโน้ตดนตรีและเปิดแฟ้มสีที่วางอยู่บนนั้น แล้วก็เริ่มอ่าน
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อพวกหมูสามารถผิวปากและหม้อสามารถพูดได้ มีสามีภรรยาที่ยากจนอยู่คู่หนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านอันทรุดโทรม ทั้งคู่เป็นเจ้าของหมูที่ผอมโซอยู่ตัวหนึ่ง”
สามีพูดกับคนดูด้วยท่าทางที่หิวโหยและสั่นเทา “ผมคือสามี” เขาพูด “และฉันเป็นภรรยา ภรรยาส่งเสียงตะโกนมา “อู๊ด!” ตามด้วยเสียงของหมู แล้วเรื่องก็ดำเนินต่อ
ชายผู้หิวโหยกับภรรยาตัดสินใจจะขายหมูที่ผอมโซของพวกเขา จึงได้นำไปขายที่ตลาด “ไม่มีใครซื้อหมูที่ผอมโซอย่างนี้หรอก” เขาคร่ำครวญ แต่แล้วในที่สุดหมูก็ถูกขายให้กับคนแคระคนหนึ่งด้วยการแลกกับหม้อต้มซุปสีดำเก่าๆ ใบหนึ่ง คนแคระหวังว่าหมูตัวใหม่ของเขาจะเรียนรู้ที่จะผิวปากเพลง “ดวงดาววาววับจรัสแสง” ได้
ขณะที่การอ่านดำเนินต่อไป ผู้อ่านอ่านบทบรรยายหรือบทของตัวละครของพวกเขาได้อย่างคล่องแคล่ว พวกเขาอ่านด้วยความกระตือรือร้นจากบทที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา
กลับไปที่บ้านนั้นอีกครั้ง ภรรยาเตรียมที่จะต้มมันฝรั่งที่เหลืออยู่ชิ้นสุดท้ายของพวกเขาในหม้อสีดำเก่าๆ ใบนั้น แต่ทันทีที่เธอวางหม้อบนเตาไฟ หม้อก็เริ่มส่งเสียงแปลกๆ เสียงนั้นยิ่งดังขึ้นๆ จนกระทั่งหม้อนั้นร้องตะโกนเสียงดังออกมา
“ข้าเป็นหม้อวิเศษเด้งดึ๋งได้
นี่เห็นข้าเป็นอะไร
ข้าต้องกระโดดฉับไว
ปล่อยข้าไป!”
ผู้อ่านทั้งหมดร่วมกันตะโกนด้วยเสียงอันดัง ปล่อยข้าไป! ปล่อยข้าไป! ปล่อยข้าไป! ถ้อยคำปล่อยข้าไปถูกพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดทั้งเรื่อง ทั้งผู้อ่านและผู้ฟังเข้าร่วมกันในโอกาสนี้
เรื่องยังดำเนินต่อไป แล้วหม้อวิเศษเด้งดึ๋งได้ก็กระโดดเข้าไปในถ้ำของสัตว์ประหลาด กระเด้งเข้าไปในยุ้งข้าวของเจ้ายักษ์ และกระดอนเข้าไปในกระท่อมของแม่มด จากนั้นก็นำรางวัลมาให้แก่เจ้าของของมันด้วยหม้อที่จุไปด้วยขนม หม้ออีกใบเต็มไปด้วยเมล็ดข้าว และอีกใบหนึ่งก็เต็มไปด้วยเงินทอง แต่สัตว์ประหลาด เจ้ายักษ์ และแม่มดก็ยังคงไล่ล่าหม้อใบนี้ แล้วในที่สุดหม้อสีดำก็ “กระโดด กระเด้ง กระดอน” เข้าไปในหม้อใบใหญ่ที่ใช้สำหรับต้มซุปของแม่มด แม่มดกรีดร้อง
“เจ้าหม้อซุ่มซ่าม! ถึงเจ้าจะกระโดด กระเด้ง กระดอนไปได้ไกลถึงอลาสก้าพวกข้าก็ไม่สน! แค่หลบไปไกลๆ ให้พวกข้าได้ตักซุปนี้กินก็พอแล้ว!”
แต่แน่นอนว่าหม้อใบนี้ก็ยังคงกระโดดกระเด้งต่อไป มันกระโดดผ่านไปที่บ้านคนแคระ ที่ที่หมูกำลังผิวปากเพลง “ดวงดาววาววับจรัสแสง” อยู่ข้างถนน และจากนั้นมาก็ไม่มีใครเห็นหม้อวิเศษเด้งดึ๋งได้นั้นอีกเลย ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ พวกนักอ่านบอกเราว่า เพราะ
“อลาสก้านั้นอยู่แสนไกล
แม้จะเป็นหม้อวิเศษเด้งดึ๋งได้ ก็ไม่สามารถ กระโดด-กระเด้ง-กระดอน กลับมา!”

นักอ่านทุกคนยืนขึ้นและโค้งคำนับ ผู้ชมปรบมือ ทุกคนยิ้ม

***************
จากหนังสือ ละครสร้างนักอ่าน : Readers Theatre

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น